VIS บำรุงสายตา ลดตาเสื่อม-ตาแห้ง
Gel Plus VIS – เจล พลัส วิส
Gel Plus VIS – เจล พลัส วิส
VDO ให้ข้อมูลของเจล VIS โดย Dr.Joel ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์
“ผลลัพธ์ในภาพและวีดิโอเป็นประสบการณ์เฉพาะบุคคล… ผลลัพธ์การช่วยเรื่องสุขภาพของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน”
ใครบ้างที่ควรรับประทาน VIS
5 สุดยอดสารอาหารบำรุงตา จากผักผลไม้หลากสี
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่เริ่มมีความเสื่อมของสายตา เห็นภาพไม่ชัดเจน ตาพร่ามัว
- ผู้ที่ใช้สายตามาก ผู้ที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน และจากการอ่านหนังสือ
- ผู้ที่โดนแฟลชถ่ายรูปบ่อยๆ
- ผู้ที่ต้องการบำรุงสายตา เพื่อป้องกันจอประสาทตาเสื่อม
- ผู้ที่ต้องการให้ดวงตาสดสวยและสดใส เป็นประกายอยู่เสมอ
5 สุดยอดสารอาหารบำรุงตา จากผักผลไม้หลากสี
โดยแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยและการฟื้นฟูสุขภาพ
VDO ให้ข้อมูลของเจล บำรุงสายตา VIS
โดยเภสัชกร ผู้เชี่ยวชาญการใช้สารอาหารเสริมบำรุงสายตา
“ผลลัพธ์ในภาพและวีดิโอเป็นประสบการณ์เฉพาะบุคคล… ผลลัพธ์การช่วยเรื่องสุขภาพของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน”
ประโยชน์ที่จะได้รับ จาก Gel Plus VIS
- เพิ่มความชุ่มชื่นในดวงตา ช่วยให้ดวงตาสามารถทำงานได้ปกติ
- มีสารเบต้าแคโรทีน ทีมีประโยชน์โดยตรงกับสุขภาพดวงตา
- การผสมผสานอย่างมีประสิทธิภาของสารสกัดจากผลบิลเบอร์รี่,สารสกัดจากเมล็ดองุ่น, และลูทีน ซึ่งจะทำงานด้วยกันในการปกป้องเนื้อเยื้อตาที่ละเอียดอ่อนและมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง
- มีส่วนผสมของพืชผักนานาชนิด
- มีค่าดัชนีไกลซีมิกต่ำ
Gel Plus VIS – เจล พลัส วิส
เพิ่มประสิทธิภาพให้ดวงตาของคุณ
มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยดูแลสุขภาพของดวงตา และการทำงานต่างๆ ของดวงตาด้วยสูตรพิเศษสุดที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อการดูแลเนื้อเยื่อด้านในและรอบดวงตา คุณจะได้รับผลลัพฑ์ในการมองเห็นที่ดีอย่างแน่นอน
ใครบ้างที่ควรรับประทาน VIS
- ผู้ที่มีปัญหาตาแห้ง จากการใส่ คอนแทคเลนส์ บิ๊กอาย หรือทำเลสิค
- ผู้ที่เริ่มมีความเสื่อมของสายตา เห็นภาพไม่ชัดเจน ตาพร่ามัว
- ผู้ที่ใช้สายตามาก ผู้ที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ ใช้มือถือเป็นเวลานาน และจากการอ่านหนังสือ
- ผู้ที่โดนแฟลชถ่ายรูปบ่อยๆ ขับรถ หรืออยู่ที่มีแสงจ้ากระพริบบ่อยๆ
- ผู้ที่มีปัญหาจอประสาทตา ต้องการบำรุงสายตา ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม
- ผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาสายตา
- ผู้มีอาการปวดตา เนื่องจากการใช้งานมาก
- ผู้ที่มองในเวลากลางคืนได้ไม่ดี
- ผู้ที่มีอาการสายตาสั้นเทียม
- ผู้ที่มีสายตายาว, ต้อล้ม , ต้อกระจก, ต้อต่างๆ
- ผู้ที่มีวุ้นในตา และมองเห็นไม่ชัด
- ผู้ที่ต้องการให้ดวงตาสดสวยและสดใส เป็นประกายอยู่เสมอ
“เบต้าแคโรทีน” (Beta-Carotene)
เป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ (Vitamin A) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพและยังช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ของเราให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
ทั้งนี้โดยปกติแล้ว ร่างกายของมนุษย์นั้นสามารถเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนไปเป็นวิตามินเอได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เสมือนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แอนตี้ออกซิแดนท์ (Anti Oxidant) อีกด้วย
เบต้าแคโรทีน มีมากในพืชสีเหลืองและส้ม ทั้งแครอท ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน มะละกอสุก และผักที่มีสีเขียวอย่างบร๊อกโคลี มะระ ผักบุ้ง ต้น หอม ผักคะน้า ตำลึง เป็นต้น
คุณแม่ อายุ 62 ตาแห้ง มองพร่า มองไม่ชัด
ทาน VIS วันละ 1 ซอง 1 อาทิตย์ ตาไม่แห้ง มองภาพชัด ไม่พร่ามัว
เคสวุ้นในตาเสื่อม ดีขึ้น
มองเห็นจุด และ เส้นลอยบังตา วุ้นในตาเสื่อม ดีขึ้น ใน 3 วัน
“ผลลัพธ์ในภาพและวีดิโอเป็นประสบการณ์เฉพาะบุคคล… ผลลัพธ์การช่วยเรื่องสุขภาพของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน”
ประโยชน์ของเบต้าแคโรทีนที่ให้แก่ร่างกายคือ
- ดูแลรักษาผิวพรรณของร่างกาย ชะลอความแก่ชราโดยการลดความเสื่อมของแซลล์จากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดกระบวนการการแก่ชรา
- ลดความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็ง อนุมูลอิสระมีผลเกี่ยวข้องกับมะเร็งเนื้อร้าย การลดปริมาณอนุมูลอิสระเท่ากับลดความเสี่ยงของมะเร็ง ทั้งยังพบว่าแบต้าแคโรทีนให้ผลกระตุ้นเซลล์ภูมิต้านทานในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น
- บำรุงสุขภาพของดวงตา ทำให้ตามีความสามารถในการมองเห็นในตอนกลางคืนได้ และยังลดความเสื่อมของเซลล์ของลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจกด้วย
ส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์ VIS
“ลูทีน”
(Lutein) เป็นสารอาหารสำคัญในอาหารบำรุงสายตา สารอาหาร Lutein จะช่วยกรองแสงหรือป้องกันรังสีที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตา ช่วยปกป้องไม่ได้ให้เซลล์ของจอประสาทตาถูกทำลาย
อาหารที่มีลูทีน (Lutein)
อยู่ในอาหารจำพวกพืชผักผลไม้ที่มีสีเขียวเข้มและสีเหลืองเช่น ผักคะน้า ผักปวยเล้ง ผักโขมและข้าวโพด ฟักทอง แครอด ผักตำลึง ตับหมู มะละกอ มะม่วงสุก ผักบุ้ง ฯลฯ
นอกจากนี้ Lutein ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต้อกระจก (cataracts) โรคกระจกตาเสื่อม (AMD) มะเร็งเต้านมและโรคหลอดเลือดหัวใจอีกด้วย
“บิลเบอร์รี่” (Bilberry)
เป็นผลไม้ที่มีสารแอนโธไชยานีนประกอบอยู่เป็นสารจำพวกฟลาโวนอยด์ (Vlavonoid) ที่มีสีแดงอมม่วง ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง และช่วยให้การไหลเวียนของเลือดในระดับที่เล็กมากขึ้น
สารชนิดนี้ช่วยเอนไซม์ต่างๆ ให้ทำงานในการะบวนการเมตาบอริซึ่มของเซลล์เรตินา ช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง สร้างคอลลาเจนช่วยในการทำงานของสมองดีขึ้น และทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ป้องกันการทำปฏิกิริยากับออกซิเจน
จากผลการวิเคราะห์และวิจัยของนักวิทยาศารตร์จากหลายๆประเทศ เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี ได้ค้นพบว่าสารที่สำคัญในบิลเบอร์รี่ มีดังนี้
- แอนโธไซยาโนไซด์ (Anthocyanosides) สามารถจับกับเซลล์บุผิว (pigmented dpithelium) ที่จอภาพเรตินาได้ดี โดยมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ดีเลิศ (Ani-oxidant)ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ และคืนสภาพสาร rhodopsin ได้หลังจากถูกแสง จึงช่วยทำให้การมองเห็นในที่มืดไม่ดี
- แทนนิน (Tannins) มีฤษธิ์ในการสมานแผล (Astingent) และให้ผลในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เช่นพวกแบคทีเรียบางชนิด
- ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) เป็นสารทีมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Anti-oxidant) เช่นกัน และยังเป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนหลายชนิดที่สำคัญต่อมนุษย์
- คลูโคควิมิน (Glucoquinine) เป็นสารทีมีฤทธิ์กระตุ้นให้การทำงานของอินซูลิน ทำให้การควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น